เฝ้าระวัง `ไข้หวัดนก` ทุกสายพันธุ์ช่วงฤดูหนาว
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
ในช่วงนี้มีหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการระบาดไข้หวัดนก
โดยเฉพาะสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 เนื่องจากหลายพื้นที่อากาศหนาวเย็น และเริ่มมีนก
อพยพหนีสภาพอากาศหนาวจากต่างประเทศมาอยู่ไทย อาจนำเชื้อมาแพร่ได้ และในปี 2557 ยังพบผู้ป่วยในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม
ในประเทศไทยยังไม่เคยมีรายงานการพบเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช 5 เอ็น 8 โดยไทยพบเพียงสายพันธุ์เอช
5 เอ็น1 (H5N1) ในช่วงปี 2546-2549 และไม่พบอีกเลยจนถึงขณะนี้
ทั้งนี้
ได้มอบให้กรมควบคุมโรคและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและในสัตว์ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ
เน้นหนักจังหวัดที่เคยพบสัตว์ปีกหรือคนติดเชื้อไข้หวัดนก
และจังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไทย-ลาว และไทย – พม่า
โดยให้ดำเนินการเฝ้าระวังทั้งในชุมชน และในโรงพยาบาล
เพื่อให้สามารถตรวจจับโรคได้อย่างรวดเร็ว
หากพบผู้ป่วยที่มีอาการในข่ายสงสัยให้สอบสวนโรค ซักประวัติการสัมผัสสัตว์ปีกทุกราย
และเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ส่วนในสัตว์ปีกให้ อสม.ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัด
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเฝ้าระวังการป่วย
ตายผิดปกติในสัตว์ปีกที่เลี้ยงตามบ้านเรือนและธรรมชาติ
หากพบให้เก็บซากสัตว์ปีกส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทันทีและแจ้งหน่วยงานสาธารณสุข
นพ.ธนรักษ์
ผลิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้รายงานผลการเฝ้าระวังขององค์การอนามัยโลกซึ่งพบว่า จนถึงปัจจุบันมีเชื้อไข้หวัดนกที่สามารถแพร่เชื้อมายังคนได้
7 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เอช
5 เอ็น 1
(H5N1) เอช 5 เอ็น 2
(H5N2) เอช 10 เอ็น 8
(H10 N 8) เอช 7 เอ็น 5(H7N5)
เอช 7 เอ็น7
(H7N7) เอช 7 เอ็น 9
(H7N9) และเอช 5 เอ็น 8 โดยที่รุนแรงที่สุดคือสายพันธุ์เอช
5 เอ็น 1 ซึ่งมักทำให้ผู้ป่วยมีอาการแทรกซ้อนรุนแรง
เช่น ปอดบวม ระบบหายใจล้มเหลว
ขณะนี้ยังพบในประเทศต่างๆทั่วโลกทั้งในคนและสัตว์อย่างต่อเนื่อง
ยอดผู้ป่วยยืนยัน ตั้งแต่ปี 2546-2557 มีทั้งหมด 668 ราย
เสียชีวิต 393 ราย ใน16 ประเทศ เฉพาะในปี 2557 มีรายงานป่วย
19 ราย เสียชีวิต 8 รายใน 5 ประเทศ
ได้แก่ กัมพูชา จีน อียิปต์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม
ทั้งนี้
กระทรวงสาธารณสุขต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้ยึดหลักปฏิบัติในการป้องกันโรคไข้หวัดนก
ห้ามนำสัตว์ปีกที่ตายแล้วหรือกำลังมีอาการป่วยมาชำแหละเพื่อจำหน่ายหรือรับประทาน
หรือนำไปให้สัตว์อื่นกินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากหากสัตว์ปีกติดเชื้อไข้หวัดนก
ผู้ชำแหละจะติดเชื้อจากการสัมผัสสารคัดหลั่งได้
หากพบสัตว์ปีกเสียชีวิตผิดปกติขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
หากจำเป็นต้องสัมผัสสัตว์ปีก ให้สวมถุงมือหรือถุงพลาสติกและล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งหลังจากสัมผัสสัตว์ปีก
หากมีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ เช่นมีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย
และเคยสัมผัสสัตว์ปีกหรือผู้ป่วยปอดบวม ให้รีบไปพบแพทย์
พร้อมแจ้งประวัติการสัมผัสโรค หรือแจ้งประวัติการเดินทาง
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก http://www.thaihealth.or.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น