วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เฝ้าระวัง `ไข้หวัดนก` ทุกสายพันธุ์ช่วงฤดูหนาว


นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงนี้มีหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการระบาดไข้หวัดนก โดยเฉพาะสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 เนื่องจากหลายพื้นที่อากาศหนาวเย็น และเริ่มมีนก อพยพหนีสภาพอากาศหนาวจากต่างประเทศมาอยู่ไทย อาจนำเชื้อมาแพร่ได้ และในปี 2557 ยังพบผู้ป่วยในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

          อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังไม่เคยมีรายงานการพบเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช 5 เอ็น 8 โดยไทยพบเพียงสายพันธุ์เอช 5 เอ็น1 (H5N1) ในช่วงปี 2546-2549 และไม่พบอีกเลยจนถึงขณะนี้
          ทั้งนี้ ได้มอบให้กรมควบคุมโรคและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและในสัตว์ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เน้นหนักจังหวัดที่เคยพบสัตว์ปีกหรือคนติดเชื้อไข้หวัดนก และจังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไทย-ลาว และไทย พม่า โดยให้ดำเนินการเฝ้าระวังทั้งในชุมชน และในโรงพยาบาล เพื่อให้สามารถตรวจจับโรคได้อย่างรวดเร็ว หากพบผู้ป่วยที่มีอาการในข่ายสงสัยให้สอบสวนโรค ซักประวัติการสัมผัสสัตว์ปีกทุกราย และเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ส่วนในสัตว์ปีกให้ อสม.ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัด กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเฝ้าระวังการป่วย ตายผิดปกติในสัตว์ปีกที่เลี้ยงตามบ้านเรือนและธรรมชาติ หากพบให้เก็บซากสัตว์ปีกส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทันทีและแจ้งหน่วยงานสาธารณสุข
          นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้รายงานผลการเฝ้าระวังขององค์การอนามัยโลกซึ่งพบว่า จนถึงปัจจุบันมีเชื้อไข้หวัดนกที่สามารถแพร่เชื้อมายังคนได้ 7 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 (H5N1) เอช 5 เอ็น 2 (H5N2) เอช 10 เอ็น 8 (H10 N 8) เอช 7 เอ็น 5(H7N5) เอช 7 เอ็น7 (H7N7) เอช 7 เอ็น 9 (H7N9) และเอช 5 เอ็น 8 โดยที่รุนแรงที่สุดคือสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 ซึ่งมักทำให้ผู้ป่วยมีอาการแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ระบบหายใจล้มเหลว
          ขณะนี้ยังพบในประเทศต่างๆทั่วโลกทั้งในคนและสัตว์อย่างต่อเนื่อง ยอดผู้ป่วยยืนยัน ตั้งแต่ปี 2546-2557 มีทั้งหมด 668 ราย เสียชีวิต 393 ราย ใน16 ประเทศ เฉพาะในปี 2557 มีรายงานป่วย 19 ราย เสียชีวิต 8 รายใน 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีน อียิปต์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม
          ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้ยึดหลักปฏิบัติในการป้องกันโรคไข้หวัดนก ห้ามนำสัตว์ปีกที่ตายแล้วหรือกำลังมีอาการป่วยมาชำแหละเพื่อจำหน่ายหรือรับประทาน หรือนำไปให้สัตว์อื่นกินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากหากสัตว์ปีกติดเชื้อไข้หวัดนก ผู้ชำแหละจะติดเชื้อจากการสัมผัสสารคัดหลั่งได้ หากพบสัตว์ปีกเสียชีวิตผิดปกติขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากจำเป็นต้องสัมผัสสัตว์ปีก ให้สวมถุงมือหรือถุงพลาสติกและล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งหลังจากสัมผัสสัตว์ปีก หากมีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ เช่นมีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และเคยสัมผัสสัตว์ปีกหรือผู้ป่วยปอดบวม ให้รีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการสัมผัสโรค หรือแจ้งประวัติการเดินทาง

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก http://www.thaihealth.or.th/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น