วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

"ลมหนาว" มาแล้ว ระวังป่วยไข้หวัดใหญ่


          ช่วงนี้สภาพอากาศของประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวกันแล้ว โดยเฉพาะทางภาคเหนือและอีสาน ทั้งยอดดอย ยอดภู ได้สัมผัสบรรยากาศทะเลหมอกกันแล้ว ขณะที่คนเมืองกรุงก็ได้ซึบซับอากาศเย็นแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายๆ กับระบบทางเดินหายใจ คือ โรคไข้หวัดใหญ่ ล่าสุด มีคำเตือนจากกรมอนามัย ที่ห่วงใยในสุขภาพคนไทยช่วงหน้าหนาว โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
          ดร.นพ.พระเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาวอากาศเริ่มเย็นลง ทำให้เสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะคนไทยกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุควรดูแลสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจและไข้หวัดใหญ่ เพราะหากเกิดในช่วงหน้าหนาวอาจกลายเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมได้ โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ จากรายงานสถานการณ์ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-13 ตุลาคม 2557 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 56,280 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 87.83 ต่อประชากรแสนคน โดยมีอาการของคนเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ไอ เมื่อมีอาการควรนอนพักผ่อนให้มาก ดื่มน้ำบ่อยๆ ถ้าตัวร้อนมากควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว หรือกินยาลดไข้อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น ภายใน 2-7 วัน แต่หากมีการไอมากขึ้น หรือมีไข้สูงนานเกิน 2 วัน ควรไปพบแพทย์
          ทั้งนี้ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวว่า การสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญด้วยการออกกำลังกายซึ่งสามารถทำได้สม่ำเสมอ อาทิ เดินเร็ววิ่งเหยาะ ขี่จักรยาน เล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง รำมวยจีน หรือทำงานบ้าน กวาด ถูบ้าน เป็นการเริ่มต้นออกกำลังกาย ควรเริ่มจากเบาๆ ระยะเวลาน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อร่างกายปรับตัว จากนั้นจึงเพิ่มความแรงหรือความหนักและการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องหนักและเหนื่อยมาก จนรู้สึกหายใจเร็ว และไม่ต้องถึงกับหอบ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที ก็เพียงพอที่จะเกิดภูมิคุ้มกัน ที่สำคัญควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะประเภทผัก และผลไม้สดที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง จะมีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคระบบทางเดินหายใจและป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ อีกทั้งควรกินอาหารปรุงสุก อุ่นให้ร้อน เพื่อเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้กับร่างกายเพื่อคลายหนาวได้อีกทางหนึ่ง ทำให้มีสุขภาพที่ดีตลอดไป
          "สำหรับคุณแม่มือใหม่ต้องดูแลลูกเป็นพิเศษ เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้ลูกปากแห้งแตก จึงควรให้ลูกดื่มนมจากเต้าบ่อยๆ วันละ 6-8 ครั้ง เนื่องจากนมแม่เป็นสารอาหารที่สำคัญและสร้างภูมิคุ้มกัน และต้านทานโรคที่ดีที่สุดให้กับทารก ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบทางเดินหายใจอีกทั้งยังกำจัดเชื้อโรคแบคทีเรียและไวรัสที่ติดอยู่บนเยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ยากขึ้น และในช่วงที่แม่ให้นมลูกอ้อมกอดของแม่จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับลูกด้วย ส่วนผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงได้ควรยืดเส้นยืดสายเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายก่อนอาบน้ำ และสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด" อธิบดีกรมอนามัยกล่าวในที่สุด

ขอขอบคุณสาระดี ๆ จาก www.thaihealth.or.th ด้วยนะคับ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น